แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
เมืองโบราณเวียงกาหลง :
อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้าประมาณ 16 กิโลเมตร แยกจากถนนสายวังเหนือ-แม่ขะจานประมาณ 200 เมตร เมืองโบราณเวียงกาหลง แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี ชมคูเมืองป้อมปราการโบราณ แบบจำลองเมืองโบราณในอดีต สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง 9 ของเมืองโบราณเวียงกาหลง ชมการผลิตเครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงที่เลื่องเชื่อว่าสวยงามเป็นอย่างมาก เคยเป็นชุมชนโบราณและแหล่งผลิตเครื่องถ้วยที่สำคัญของดินแดนล้านนาในอดีต ปัจจุบันชาวบ้านได้ตั้งกลุ่มผลิตเครื่องเคลือบเวียงกาหลงขึ้นเพื่ออนุรักษ์รูปแบบการทำเครื่องถ้วยดั้งเดิม
วัดพระธาตุแม่เจดีย์ :
วัดพระธาตุแม่เจดีย์นั้นได้สร้างขึ้น เมื่อปีพ.ศ. 1583 โดยพระเจ้าอโนรชามังเซ่งกษัตริย์แห่งพม่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพ สักการะบูชา ของประชาชนใน อำเภอเวียงป่าเป้าในปี พ.ศ. 2531 เป็นต้นมาพระครู ไพฐูลฑ์พัฒนาภิรักษ์ได้เข้ามาปฏิบัติธรรมณสถานที่แห่งนี้และได้ลงมือพัฒนาพื้นที่และ ทำ การ บูรณะปฏิสังขรณ องค์พระธาตุแม่เจดีย์และองค์พระธาตุเจ้าครูบาศรีวิชัย ให้มีสภาพคงเดิม บริเวณ รอบๆ วัดพระธาตุแม่เจดีย์มีอ่างเก็บน้ำห้วยย่าคำมาอยู่บริเวณรอบ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วังมัจฉา วัดได้มีการปรับปรุงสถานที่ ให้เป็น แหล่ง ท่องเที่ยว และอนุรักษ์ป่า อนุรักษ์พันธุ์ปลา ทำให้เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยว ชอบมาพักผ่อนเป็นที่รู้จัก นมัสการพระพุทธรูปทองคำสิงห์หนึ่ง และสิงห์สาม ซึ่งถูกขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2551 รวมถึงสายสร้อยสังวาลย์ที่ทำจากทองคำ
น้ำพุร้อนโป่งน้ำร้อน อ.เวียงป่าเป้า :
บ่อน้ำพุร้อนแม่เจดีย์ หรือ บ่อน้ำพุร้อนแม่ขะจาน เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า ระหว่างเส้นทางสายเชียงใหม่มาเชียงราย เป็นจุดพักรถที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้จับจ่ายซื้อของที่ระลึก งานฝีมือหัตถกรรมที่มีให้เลือกมากมาย รวมถึงมีร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวได้พักรับประทานอาหารหลายร้าน
อุทยานแห่งชาติ ขุนแจ :
ตั้งอยู่ในเขต อ.เวียงป่าเป้า จ.เขียงราย ได้รับการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2538 มีพื้นที่ทั้งหมด 270 ตร.กม. มีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์มากมาย ทั้งพรรณไม้ สัตว์ป่า น้ำตกและทิวทัศน์อันงดงาม
สิ่งที่น่าสนใจ
น้ำตกแม่โถ เป็นน้ำตกสูงเจ็ดชั้นที่มีน้ำไหลตลอดปี มีความสูงทั้งสิน 40 ม.
น้ำตกขุนแจ เป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงมาหกชั้น - ที่ตั้งและการเดินทาง มีทางเข้าอยู่บริเวณวัดหลวงราษฎร์เจริญธรรม ตรงแม่ขะจาน แยกขวามือเข้าไปประมาณ 14 กม.จึงถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อยจึงถึงตัวน้ำตก การเดินทางค่อนข้างสะดวกกว่าน้ำตกแม่โถ
ดอยมด เป็นยอดดอยสูงระดับ 1700 ม. ปกคลุมไปด้วยป่าดิบขึ้น จึงทำให้มีแอ่งน้ำขังและเกิดพืชชั้นล่างมากมาย เช่น กล้วยไม้ดิน เฟิร์น มอส ตะไคร่น้ำ เมื่อขึ้นไปดอยจะสามารถเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ทางทิศตะวันตก และจะเห็นตัวเมืองเชียงรายได้ทางทิศตะวันออก
ดอยลังกา สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2000 ม. สูงเป็นลำดับที่ 5 ของประเทศไทย เมื่อขึ้นไปดอยลังกานักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของ อช. ขุนแจได้ทั้งหมด รวมถึงเห็นทิวทัศน์ของ อช. แจ้ซ้อนและ อช. แม่ตะไคร้ได้อีกด้วย
ชมเขื่อนแม่สรวย :
เขื่อนแม่สรวย อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สรวยไปทางเชียงราย ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันที่จะไปดอยวาวี-ดอยช้าง นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสธรรมชาติบริเวณโดยรอบ พักรับประทานอาหาร นั่งแพชมอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน หรือแม้กระทั่งกางเต็นท์ตกปลา สำหรับคนที่ชื่นชอบ
จิบกาแฟ ชมดอกไม้ ที่ดอยช้าง-ดอยวาวี :
ดอยช้างเป็นส่วนหนึ่งของดอยวาวี ในอำเภอแม่สรวย ซึ่งเส้นทางจากตัวอำเภอแม่สรวยไปดอยวาวีนั้นเป็นถนนลาดยาง แต่จากวาวีไปยังดอยช้างถนนมีสภาพเป็นลูกรังขึ้นเขาสูงชัน รถเล็กไม่สามารถขึ้นไปได้ ดอยช้างมีชื่อเสียงในเรื่องของกาแฟอาราบิก้า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นที่หนึ่งของประเทศ นอกจากนั้นที่ดอยช้างยังขึ้นชื่อในหมู่ของนักท่องเที่ยวเรื่องการไปชมซากุระบานช่วงฤดูหนาว ซากุระหรือพญาเสือโคร่งนับแสนต้นจะเริ่มบานเต็มต้น ในราวปลายเดือนธันวาคมถึงต้นมกราคม แต่หากไม่ได้มาเที่ยวในช่วงที่ดอกซากุระบาน ก็ยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
วัดร่องขุ่น :
วัดร่องขุ่นออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เมื่อ พ.ศ.2540 บนพื้นที่เดิมของวัด 3 ไร่ และขยายเป็น 12 ไร่ อุโบสถสร้างด้วยกระจกสีเงิน ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยเฉพาะภาพพระพุทธองค์หลังพระประธานซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่สวยงามมาก
สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช :
พระเจ้าเม็งรายมหาราช หรือ พ่อขุนเม็งราย หรือ พญามังราย ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา โดยทรงย้ายเมืองหลวงจากเมืองเชียงแสน มาสู่เมืองเชียงราย และในที่สุดก็ทรงตั้งเมืองเวียงพิงค์ หรือเชียงใหม่เป็นราชธานี โดยอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชตั้งอยู่ภายในตัวเมืองเชียงราย
ร่องเรือแม่น้ำกก :
แม่น้ำกกเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากบ้านท่าตอนผ่านตัวเมืองเชียงราย นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือริมแม่น้ำในตัวเมือง (ท่าเรือซีอาร์) เพื่อเที่ยวชมทัศนียภาพของแม่น้ำกก สองฟากฝั่งเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาต หรือจะแวะบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรเพื่อนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณนั้นก็ได้
ขี่ช้างเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร :
บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกกฝั่งซ้าย หมู่ 2 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย นอกจากชาวกระเหรี่ยงแล้วยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่าและลาหู่ในระแวกใกล้เคียง หมู่บ้านกระเหรี่ยงเป็นหมู่บ้านขี่ช้างเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขา ประกอบไปด้วย ชนเผ่ากะเหรี่ยง,อาข่า,ลาหู่,ลีซอ,ม้ง,ไทลื้อ กิจกรรมที่สำคัญ
- กิจกรรมนั่งช้าง นั่งเกวียน ชมวิถีชีวิตชนเผ่า ทิวทัศน์ พันธ์ไม้ต่าง ๆ สามารถนั้งช้างไปยังน้ำตกห้วยแม่ซ้ายได้
- ชมร้านจำหน่ายของที่ระลึก จากฝีมือชาวเขาเผ่าต่าง ๆ
- ชมการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า
พระตำหนักดอยตุง :
ดอยตุง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ใน อ.แม่ฟ้าหลวง ท่ามกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์ บนยอดดอยตุงมีภูมิประเทศที่งดงาม โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนไปตามแนวพรมแ ดนไทย-พม่า มีอากาศที่เย็นสบาย
ดอยแม่สลอง :
การเดินทาง ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน เลยจากอำเภอแม่จันไป 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายไป 12 กิโลเมตร ถึงศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาเลยจากศูนย์ฯ ไป 11 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านเย้าถึงบ้านอีก้อสามแยก ทางขวาไปหมู่บ้านเทอดไทย ส่วนแยกซ้ายไปดอยแม่สลอง ระยะทาง 18 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย 42 กิโลเมตร
ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก บนดอยแม่สลองมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่งให้ได้ชื่นชมกัน เช่น ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ จะเห็น ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาว จะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลภูเขาได้ และไม่ควรพลาดการชิมชา รสชาติกลมกล่อม หอม ซึ่งจะมีอยู่หลายร้านในหมู่บ้าน และหาซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝาก
ตลาดแม่สาย(เซิ่นเจิ้นเมืองไทย) :
อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 61 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 110 เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย ติดกับจังหวัดท่าขี้เหล็กของประเทศพม่า โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน ทั้งชาวไทยและชาวพม่าเดินทางไปมาหาสู่ค้าขายกันโดยเสรี นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางไปยังตลาดแม่สายและท่าขี้เหล็กของพม่า เพื่อซื้อสินค้าพื้นเมืองและสินค้าราคาถูก เช่น สบู่สุมนไพร เครื่องทองเหลือง ตะกร้า การข้ามไปท่าขี้เหล็ก นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทาง เขตประเทศพม่าได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 06.30 - 18.00 น. โดยใช้บัตรประชาชน หรือบัตรอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ ค่าบริการคนละ 30 บาท ค่าผ่านแดนเข้าพม่า 10 บาท
สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน :
สามเหลี่ยมทองคำ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สบรวก" เพราะเป็นจุดที่แม่น้ำรวก ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า มาบรรจบกับแม่น้ำโขงที่กันพรมแดนระหว่างไทยกับลาว บริเวณนี้จึงเป็นจุดบรรจบของพรมแดน สามประเทศ คือ ไทย ลาว และพม่า พื้นที่ฝั่งไทยคือ บ้านสบรวก ฝั่งพม่าคือ บ้านผักฮี้ ต.เมืองพง อ.ท่าขี้เหล็ก จ.เขียงตุง ส่วนฝั่งลาวคือ บ้านกว๊าน เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว แต่จุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพากันเดินทางมาเที่ยวที่นี่เพราะครั้งหนึ่งสามเหลี่ยมทองคำเคยได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งการค้าฝิ่น ในปัจจุบันไม่มีไร่ฝิ่นและการค้ายาเสพย์ติดหลงเหลืออยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำอีกแล้ว คงเหลือเพียงทิวทัศน์ที่สงบเงียบของลำน้ำและเขตแดนของสามประเทศเท่านั้น แต่ผู้คนก็ยังคงพากันเดินทางมาสัมผัสกับตำนานของสามเหลี่ยมทองคำกันจำนวนมากและนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงตรงจุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และ พม่า
ภูชี้ฟ้า อ.เทิง :
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงทางตะวันออกของจังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย - ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวเลาไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ เป็นที่มาของชื่อ " ภูชี้ฟ้า " จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง ๑,๖๒๘ เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไชยบุรี ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
วัดพระแก้ว-วัดงำเมือง :
วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ในตัวเมืองเชียงราย แต่เดิมมีชื่อว่าวัดป่าเยี้ย เยี้ยแปลว่าไม้ไผ่ บริเวณที่ตั้งวัดเป็นป่าไผ่จึงตั้งชื่อตามที่มา
วัดงำเมือง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีความสำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของกู่พญามังราย ตั้งอยู่ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่๑ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ( อยู่ด้านหลังวัดพระแก้ว)
วัดพระธาตุจอมทอง :
วัดพระธาตุดอยจอมทองเป็นวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในเมืองเชียงราย ตั้งอยู่บนดอยจอมทอง ริมแม่น้ำกกด้านทิศใต้ของศาลากลางจังหวัด และยังเป็นวัดที่อยู่กลางใจเมืองเชียงรายซึ่งประดิษฐานขององค์พระธาตุจอมทอง มีเนื้อที่ถึง 28 ไร่ 2งาน 62 ตารางวา และสะดือเมือง(หลักเมือง)เชียงราย อันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวเชียงรายโดยทั่วไป
วัดพระธาตุจอมสัก :
พระธาตุจอมสักเดิมชื่อ พระธาตุดอยบ้านยาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำกกมากนัก สร้างขึ้นในสมัยโยนกไชยบุรีศรีเชียงแสน จนถึงสมัยพระเจ้าพังคราช กษัตริย์แห่งราชวงค์โยนก องค์ที่ ๒๔ ได้มีพระเถระองค์หนึ่งชาวโกศล เมืองสุธรรมาวดี นามพระพุทธโฆษาจารย์ ได้นำพระบรทสารีริกธาตุจากประเทศลังกามาถวายพระองค์จำนวน ๑๖ องค์ พระเจ้าพังคราชทรงโปรดให้แบ่งพระธาตุออกเป็น ๓ ส่วน ส่วนหนึ่งประดิษฐานอยู่บนพระธาตุดอยจอมทอง ส่วนที่สองประดิษฐานอยู่บนพระธาตุจอมกิติ และส่วนที่สามนำมาประดิษฐานที่พระธาตุดอยบ้านยาง ต่อมา ใน พ.ศ. ๒๔๙o พระครูบาคำหล้า สังวโร ได้เป็นประธานในการบูรณะพระธาตุองค์ใหม่ โดยสร้างครอบพระธาตุองค์เดิมไว้และได้สร้างวิหารเรือไว้สักยกใต้ถุนหลังหนึ่ง และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นพระธาตุจอมสักจนถึงทุกวันนี้
วัดพระธาตุจอมกิตติ :
พระธาตุจอมกิตติ เป็นพระธาตุเก่าแก่อยู่ที่ดอยจอมกิตติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เชื่อว่าเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เจดีย์องค์นี้ทำเรือนธาตุย่อมุมไม้สิบสอง มีซุ้มจระนำสี่ทิศ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปยืนแบบเชียงแสน